เลิกสนใจเงินเดือน...แล้วจะร่ำรวย

รายได้คือความมั่งคง...ไม่ใช่นายจ้าง **บริษัทใหญ่แค่ไหนก็ไม่สามารถสร้างความมั่นคงให้คุณได้ ถ้ายังไม่เข้าใจเรื่องนี้ -- มีคนที่ร่ำรวยที่ไหน..รับเงินเดือนอย่างเดียวแล้วรวย น่าจะมีแต่น้อยมาก ผู้บริหารหลายคนที่เก่ง ...รับเงินจากหลายที่ จากการเป็นที่ปรึกษา จากความเชี่ยวชาญที่เขามี นี่คือประเด็นว่าทำไมผู้บริหารหลายคนจึงร่ำรวย -- คนทำงานเก่งและเชี่ยวชาญในเรื่องที่ทำ "ไม่ยึดติด" พวกเขามั่นใจว่าทำงานที่ไหนก็ได้ หรือสามารถสร้างรายได้ ให้กับตัวเองได้แม้จะไม่มีใครจ้างพวกเขาก็ตาม "คุณอยู่ในกลุ่มไหน" ระหว่าง Geralist maker / Specialist or Expertise - ขอแทรกความรู้ภาษาอังกฤษให้เพิ่มค่ะ - Generalist -someone with broad knowledge across many topics and expertise in a few. คือคนที่มีความรู้กว้างหลายเรื่องแต่มีเรื่องที่เชี่ยวชาญจริงน้อย . Specialist/ Expertise- The kind of expertise associated with a particular field. รู้จริงในเรื่องนั้น -- การได้รับเงินเดือนทุกเดือน เป็นการสร้างความเคยชินที่ทำให้รู้สึกว่าปลอดภัย Sefty zone / Confort zone อะไรก็แล้วแต่ สามารถนำมาใช้กับอาการแบบนี้ได้ -- งานประจำทำให้หลายคนขาดโอกาสในการพัฒนาตัวเองมานักต่อนักแล้ว แต่มันก็ยังมีคนที่ทำงานประจำอีกมากที่สามารถสร้างตัวและสร้างรายได้ ในทางอื่น ...ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการศึกษา ความเข้าใจ และวินัยในการใช้ชีวิตของคุณ .. สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเมื่อต้องการสร้างชีวิตหรือรายได้เพิ่ม **รู้ว่าตัวเองมีช่องทางของการรับเงินที่ทาง เรื่องนี้สำคัญมาก..เพราะคุณต้องรู้เสียก่อนว่า รายได้ที่ได้มานั้นมีกี่ทางกันแน่ ถ้าคุณมีรายได้ทางเดียว ..อันนี้อันตรายมาก "รายได้ทางเดียวคือรูปแบบการใช้ชีวิตแบบเก่า" พ่อ แม่ ของเราสอนมาให้ทำงานทุ่มเท แต่อาจลืมสอนไปว่า..เราต้องทุ่มเทให้ถูกที่ และใช้เวลาให้มีค่ามากที่สุด - บางคนทุ่มเททำงานให้กับองค์กร หวังเงินเกษียณสักก้อนเพื่อมาใช้จ่ายทั้งชีวิตที่เหลือ เมื่อก่อนอาจเป็นเช่นนี้ได้ แต่ตอนนี้ชีวิตมันเปลี่ยนไป เงินจาก Provident fund หรือเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้นไม่พอ "เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ" เข้าใจคำนี้จะทำให้รู้ว่านี่คือเงินสำรอง ไม่ใช่เงินกองทุนที่จะเลี้ยงชีพได้ตลอดไป - รายได้...คือความมั่นคง ไม่ใช่นายจ้าง . ประโยคข้างบนจะทำให้คุณเข้าใจเรื่องของความมั่นคงยิ่งขึ้น นายจ้าง...สามารถบอกเลิกสัญญาจ้างเมื่อไหร่ก็ได้ ส่วนรายได้ที่คุณสร้างเอง ...คุณจะไม่ได้รับต่อเมื่อคุณเลิกทำ "จำไว้เสมอว่า เมื่อคุณออกไปจากบริษัทจะมีคนใหม่เข้ามาเสมอ" คุณไม่ได้จำเป็นที่สุด - อีลอน มัส ให้พนักงานที่ทำงานให้กับเขามากว่า 12 ปี ออก เพราะเธอขอเงินเดือนเพิ่มขึ้น ทั้งที่เธอทุ่มเทและทำงานทุกอย่างให้กับเขาอย่างดีมาก เหตุผล ..เพราะ อีลอน มัส บอกว่า "เธอทำงานเก่งนะ แต่เธอไม่ได้สำคัญที่สุด" เพราะเรื่องที่เธอทำ ผมทำเองได้ . มิส บราวน์ ทำงานให้กับอีลอน มัส มากว่า12 ปี เธอทำหน้าที่เป็นเหมือน Persnonal Asistant ที่คอยจัดการตารางงาน ตารางชีวิตทุกอย่าง และยังมีส่วนร่วมในธุรกิจบางอย่างอีกด้วย แต่เรื่องเหล่านี้ในสายตาและความคิดของ อีลอน ไม่ใช่เรื่องพิเศษ ความพิเศษของหน้าที่หรือความสามารถต่างหากที่เขาให้คุณค่า "คุณอาจคิดว่านี่มันไม่แฟร์ แต่นี่คือมุมมองของนักบริหาร" การคงอยู่ได้ขององค์กร ไม่เกี่ยวกับ บุญคุณ . เรื่องนี้จบลงไม่แย่นัก..เพราะอีลอน มัส ตอบแทนเธอด้วยการจ่ายเงินเดือน 12 เดือน และให้หุ้นบริษัทกับเธอจำนวนหนึ่ง - ทักษะที่คุณเชี่ยวชาญจะทำให้คุณทำงานได้ทุกที่ และสร้างรายได้ที่แตกต่าง - มิส บราวน์ อาจมีรายได้ทางเดียวจากบริษัทที่ทำงานให้กับ อีลอน มัส ถ้าเธอไม่สร้างรายได้อื่นไว้เพิ่ม หรือ เสริม ไม่นานนักเธอคงอยู่ในสถานการณ์ที่แย่ เพราะจะได้เงินเพียงบางส่วนจากการลาออก นั่นไม่น่าเพียงพอในการอยู่ตลอดชีวิต . ถ้ามิส บราวน์ มีความเชี่ยวชาญในการทำงานด้านอื่น นอกจากงานผู้ช่วยที่เธอทำ หรือสร้างรายได้อื่นไว้ ไม่ว่าจะเป็น -รายได้จากการลงทุน -รายได้จากค่าเช่า -รายได้จากงานอดิเรกที่ทำ -รายได้จากการสอนหรือเป็นที่ปรึกษา -รายได้จากลิขสิทธิ์ ดิฉันเคยเขียนเรื่อง 7 ทีมาของรายได้มนุษย์ คุณไม่ต้องมีถึง 7 แหล่งแต่มีแค่ 3 หรือ 4 ก็ทำให้ร่ำรวยได้แล้ว . 12 ปีที่ทุ่มเท...หายไป สิ่งที่เหลือไว้ คือ ความเสียใจที่นายจ้างให้ออก ตอนนี้คุณทุ่มเทให้นายจ้างมาเท่าไหร่ สิ่งที่คุณได้รับกลับไปคุ้มค่าหรือยัง 9.00-17.00 น.ของคุณ หารออกมาตกเป็นค่าตัวต่อชั่วโมงเท่าไหร่ คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปหรือไม่ในแต่ละวัน "เวลาเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดของมนุษย์" . คำถามที่ดี จะได้รับคำตอบที่น่าสนใจ **ดูว่าใครฉลาดดูจากสิ่งที่เขาถาม "ไม่มีคำตอบใด "ถูกทุกข้อ" ในการใช้ชีวิต" . เรื่องของ มิสบราวน์ อาจสะกิดใจคุณได้สักหน่อย หันกลับมาตั้งคำถามให้กับตัวเอง และศึกษาข้อมูลเพื่อเพิ่มทักษะการอยู่รอดให้มาก ดิฉันไม่ได้พูดถึงทักษะการทำงาน..แต่ชั่วโมงนี้ต้องพูดว่า "ทักษะของความอยู่รอด" . ถ้าคุณเห็นด้วยกับบทความนี้ โปรดแชร์ให้คนที่รักอ่าน . ดิฉันเขียนงานไว้เยอะใน สิพิม- ชีวิตดีมี Design ถ้าคุณอยากได้ข้อมูลเรื่องการเรียนต่อออสเตรเลีย และวีซ่า เข้าไปที่ Plan Study Agency- ออสเตรเลียเราเชี่ยวชาญ เรียนนอกให้บอกเรา ดิฉันเขียนไว้เยอะมาก หัวข้อดีๆที่ไม่ต้องฟีดหาเข้าไปที่เว็ปไซด์ www.planstudyagency.com เรื่องเรียนต่อ หรือว่าการใช้ชีวิตก็มีให้อ่าน . "การแบ่งปันความรู้คือการแบ่งปันโอกาส" สิพิม พิวัธธงไชย - “If we command our wealth, we shall be free; if our wealth commands us, we are poor indeed”- Edmund Burke ถ้าเราควบคุมความมั่งคั่งนั่นจะทำให้เราอิสระ ..แต่ถ้าความมั่งคั่งควบคุมเรานั่นคือสิ่งที่กักขังและไร้ซึ่งความสุข **หาได้ไม่เท่าใช้และบริหารเป็น**