top of page
รูปภาพนักเขียนSipim Piwatthonchai

7 สัญญาญเตือนชีวิตต้องการเปลี่ยนแปลง

- "ถ้าไม่เปลี่ยนอะไร..ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน" “By changing nothing, nothing changes.” — Tony Robbins, "เพื่อนแท้จะเชื่อในตัวคุณ..มากกว่าข่าวลือที่เขาได้ยิน" . มีสัญญาณมากมายที่ส่งหาคุณแต่บางครั้งคุณอาจมองข้ามไป จนทำให้เสียโอกาสดีๆ หรือ โอกาสของการแก้ไขบางเรื่อง การใช้ชีวิตในแต่ละวันโดยรูปแบบเดิม ทำให้คุณลืมนึกถึงสิ่งที่กำลังจะมาข้างหน้า ไม่ว่าปัญหาหรืออุปสรรค หรือว่าเรื่องที่ไม่คาดฝัน คนที่สังเกตเป็น..จะเข้าใจและรับมือได้ดี . 7 สัณญาณนี้จะบอกว่าชีวิตคุณมีเรื่องต้องเปลี่ยนแปลง . 1. คิดถึงแต่เรื่องอดีต...แสดงว่าชีวิตตอนนี้ไม่มีความสุขเอาเสียเลย ทำให้วันทั้งวันหรือเรืองที่คุณพูดถึงจะเกี่ยวโยงแต่เรื่องของอดีต รู้มั้ยว่าสิ่งนี้จะทำให้คุณเสียเวลาชีวิตในปัจจุบัน และทำให้อนาคตคุณแคบลง เรื่องของอดีต..ไม่ว่าจะงดงาม แสนหวาน หรือ สำเร็จ มากเพียงไหน แต่มันจบไปแล้ว...เรื่องที่คุณต้องคิดถึงให้มากคือเรื่องของวันนี้ สิ่งที่จะทำวันนี้ ที่จะส่งผลไปยังวันข้างหน้า ...ลดการคิดถึงเรื่องวันวานให้น้อยลง ที่วิธีการที่จะทำให้ชีวิตคุณไปข้างหน้าได้ . 2.การกระทำไม่สัมพันธ์กับคำพูด สังเกตสิ่งที่ตัวเองต้องทำ ..แต่ไม่ทำ สิ่งนี้ลดความน่าเชื่อถือในตัวคุณเอง ถ้าคุณเป็นแบบนี้หลายๆครั้ง แสดงว่าคุณมีปัญหาด้านจิตวิทยา คืออาการของการขัดกันระหว่างพฤติกรรมและความเชื่อ cognitive dissonance — a mental conflict where your behaviors and beliefs don’t match. คนที่มีอาการแบบนี้จะทำอะไรไม่ตรงกับคำพูด..คือพูดอีกอย่างทำอีกอย่าง อาการนี้มีผลต่อชีวิต..เพราะเขาอาจเป็นคนที่คิดดี อยากสำเร็จ แต่ไปไม่ถึงสิ่งนั้นเนื่องจากกว่า ..เขาจะทำในอีกเรื่องหนึ่ง หากคุณมีพนักงานที่ทำงาน..ให้สังเกตว่าเขารับปากในการทำงานและทำเรื่องที่ทำหรือไม่ หรือให้ความสำคัญกับเรื่องอื่นแทน . 3.เกิดความสงสัยในความสัมพันธ์ “Fake friends believe in rumors. Real friends believe in you.” — Anonymous "เพื่อนแท้จะเชื่อในตัวคุณ มากกว่าเรื่องที่เขาได้ยินมาจากคนอื่น" เพื่อนแท้จะไม่สงสัยในสิ่งที่คุณทำ ..เพราะไม่ว่าคุณจะทำมันออกมาดี หรือแย่..เขาจะเป็นคนที่อยู่ข้างคุณเสมอ ถ้าคุณมีความรู้สึกสงสัยในความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่ ..ไม่รู้สึกสบายใจ แสดงว่าคุณต้องพิจารณาและเปลี่ยนแปลง "เพื่อนของคุณคือความสำเร็จของคุณ" ดูอนาคตของคุณ..ให้ดูคน 5 คนที่คุณใช้เวลาด้วย . 4.รู้สึกด้านชา ไม่ยินดี ยินร้ายกับเรื่องรอบตัว อย่าเข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องดี เพราะสิ่งนี้จะทำให้คุณโดดเดี่ยว ไม่สน แปด สน สิบ..บางคนคิดว่าสิ่งนี้คือการ "ปล่อยวาง" เปล่าเลย สิ่งนี้คือการเพิกเฉยต่างหาก ..อาการด้านชานี้ ส่งผลให้ขาดความกระตือรือร้น และ เอาจริงเอาจัง แยกให้ออกระหว่าง "ปล่อยวาง" และ นิ่งเฉย . 5.หวาดกลัวคำวิจารณ์ คุณจะเติบโตได้เมื่อรับฟังผู้คนวิจารณ์สิ่งที่คุณทำ เมื่อไหร่ที่คุณมีอาการของการหวาดกลัว ..สิ่งที่ร้ายที่สุดที่จะเกิดขึั้นคือ คุณจะไม่ทำอะไรสักอย่าง..เพราะกลัวการวิจารณ์นั้น หาใครสักคนที่คุณเชื่อมั่น ปรึกษาและหาทางออก เพื่อสร้างความมั่นใจ . 6.เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น คุณกำลังลดความสุขของตัวเองโดยไม่รู้ตัว ..และสิ่งนี้จะทำให้คุณกลายเป็นคนขี้อิจฉา เลิกเอาตัวเองไปเปรียบกับคนอื่น ..เพราะคนเราเกิดมาต่างกัน ถ้าคุณเชื่อในเรื่องโชควาสนา ..นี่อาจทำให้ความรู้สึกเบาลงได้ และถ้าคุณเชื่อว่า..คนโชคดีคือคนที่ทุ่มเท จงหันมาพิจารณาตัวเองและทุ่มเทกับสิ่งที่ทำให้มากขึ้น เพราะสิ่งนั้นจะทำให้คุณมีความสุขอย่างแท้จริง การนั่งนึกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น แม้หนึ่งนาทีก็เสียเวลาดีๆของชีวิต . 7.เมื่อรู้สึกหยุดนิ่ง..และไร้การเติบโต การเติบโตแยกเป็นสองส่วน -การเติบโตภายนอก คือเรื่องของชีวิตทั่วไป การทำงาน ครอบครัว ความเป็นอยู่ ถ้าคุณคิดว่ามันไม่เคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างที่น่าพอใจ คุณก็ต้องเปลี่ยน / -การเติบโตภายใน เรื่องนี้ยิ่งใหญ่กว่าการเติบโตภายนอก ถ้าภายในของคุณไม่เติบโต และไม่มั่นคงเพียงพอ ก็ยากที่จะทำให้การเติบโตภายนอกดีขึ้นได้ การเติบโตภายนั้นมีองค์ประกอบที่ซับซ้อนเป็นเรื่องของความคิด จิตวิญญาณ รวมทั้งการมีวินัยในชีวิตด้วย - เปลี่ยนความคิด ..ชีวิตเปลี่ยน ในโลกนี้มีเรื่องดีๆ และหนังสือดีๆอีกมากที่คุณยังไม่ได้อ่าน ดิฉันรู้สึกอิ่มเอมใจทุกครั้งที่ได้อ่านเรื่องดีๆ และรู้สึกดีมากยิ่งขึ้นที่ได้มีโอกาสแบ่งปัน สิ่งดีนั้นกับผู้คน ในหนึ่งบทความนั้นมีจำนวนคำเป็นพันคำ ที่เป็นคำดีๆ มันจะไม่มีค่าอะไร...ถ้าคุณอ่านไปแล้วไม่กลับไปทบทวนและคิด - แบ่งปันความรู้เท่ากับแบ่งปันโอกาส สิพิม พิวัธธงไชย


แสดงความคิดเห็น แชร์

ดู 6 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


โพสต์: Blog2_Post
bottom of page