หลายคนคงรู้ว่า เมล์เบิร์นนั้นเป็นเมืองที่ติด 1 ใน 10 ของเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก
เหตุผลนั้นมีหลายประการ แต่ด้วยประสบการณ์และการมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ของพี่สิพิมเอง
อยากให้มุมมองกับน้องๆที่แตกต่างจากการอ่าน จากสื่ออื่น
พี่สิพิมมาออสเตรเลียครั้งแรก และลงเครื่องที่เมล์เบิร์นเป็นเมืองแรกเมื่อปี 2010
ก็คือเมื่อ 11 ปีที่แล้วเพื่อมาประชุมการทำงานด้านการศึกษา
...การมาในครั้งนั้นเดินทางคนเดียวและเป็นการเดินทางต่างประเทศครั้งแรกในชีวิต
ขึ้นเครื่องจากไทยตอนหกทุ่มกว่า ..เมื่อกัปตันประกาศว่า "ขณะนี้เราได้ออกจากน่านฟ้าของประเทศไทยแล้ว" ยิ่งทำให้รู้สึกตื่นเต้นยิ่งขึ้น การเดินทางใช้เวลา 9 ชั่วโมง เตรียมเสื้อผ้ามากันหนาวอย่างเต็มที่
ตอนอยู่ในสนามบินไม่ได้รับรู้ถึงอากาศด้านนอก แต่พอเดินออกมา...โอ้โหหนาวจับใจ มาครั้งนั้นคือเดือน พฤษภาคม ซึ่งเมลเบิร์นกำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาว สำหรับน้องๆคนไหนที่ยังไม่เคยเดินทางต่างประเทศ ควรเช็คสภาพอากาศมาก่อนทุกครั้ง...เมื่อมาถึงคนขับรถมาถือป้ายรอรับ ทักทายกันนิดหน่อยแล้วนั่งรถเข้าในเมืองซึ่งห่างจากตัวสนามบินประมาณ 30 นาที เมื่อสิบปีที่แล้วภูมิทัศน์ของถนนหนทางก็สะดวก สะอาดสะอ้าน ขอนั่งด้านหน้ากับคนขับเพราะต้องการเห็นเส้นทางเพื่อเก็บความประทับใจ มาครั้งแรกพักโรงแรมใกล้กับ Victoria Market ใจกลางเมืองเมล์เบิร์น ฝั่งตรงข้ามโรงแรมมีร้านกาแฟสวยๆหลายร้าน นับเป็นการมาดื่มกาแฟที่อยู่ในความทรงจำตลอดมา
ตัดกลับมาที่...ตัดสินใจย้ายมาอยู่เมล์เบิร์นหลังจากสิบกว่าปีผ่านไป
ที่จริงพี่มีโอกาสไปอยู่หลายประเทศไม่ว่าจะเป็น อเมริกา อังกฤษ หรือว่า ประเทศอื่น
แต่ในความรู้สึกนั้นผูกพันธ์และคิดว่าออสเตรเลียน่าอยู่ที่สุด และอีกเหตุผลคือใกล้ประเทศไทยเดินทางไปมาสะดวกและง่าย และคนออสเตรเลียเองก็ใจดี
เมื่อมาอยู่จริง...จึงได้เรียนรู้ว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่เราควรเข้าใจและจำเป็นในการใช้ชีวิตที่นี่
การเช่าบ้านต้องมีเงินวางมัดจำ หรือเรียกว่าเงินบอร์น น้องๆที่จะเช่าบ้านหรือห้องพักต้องมีเงินวางมัดจำค่าเสียหายอื่นๆ ซึ่งโดยทั่วไปเก็บกันที่ประมาณพันกว่าเหรียญ สัญญาเช่าเป็นปี ที่สำคัญถ้าออกก่อนจะมีการเสียค่าปรับ
ต้องรู้วิธีการขึ้นรถโดยสารประจำทาง ใครที่ชอบนั่งแท็กซี่ถ้ามีตังค์ก็เรียกใช้ได้เลยแต่ว่าคนที่ต้องการประหยัดเงินรถประจำทางนั้นดีที่สุดและระบบการขนส่งของเมล์เบิร์นก็ได้รับการยอมรับว่าดีมากๆระดับโลก
การขึ้นรถประจำทางต้องแตะบัตรโดยสารทุกครั้ง เพราะจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบนรถ หากพบว่าไม่ได้แตะบัตรเพื่อชำระค่าโดยสาร จะถูกปรับซึ่งค่าปรับก็สูงมากอาจสูงถึงหมื่นบาทได้
การเสียค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก็ส ชำระเป็นรายสามเดือน จะมีบิลเรียกเก็บส่งในอิเมล์ มีผู้ให้บริการน้ำ ไฟ แก็ส หลายบริษัท สามารถเลือกใช้ได้
กรณีเช่าห้องรวมกับคนอื่น น้องๆจะมีบิลเรียกเก็บค่าอย่างอื่นด้วย ต้องอ่านรายละเอียดให้ชัดเจน
อินเตอร์เนตเป็นค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างราคาสูง ดังนั้นให้คำนวนค่าใช้จ่ายส่วนนี้ให้ดี
กรณีอายุไม่ถึง 18 ปี ไม่สามารถซื้อสุราได้ หากสั่งเครื่องดื่มมาที่พักผู้ส่งจะขอตรวจสอบบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตเพื่อยืนยันในระบบ
การขับรถในออสเตรเลีย ขับด้านขวาเหมือนที่ไทยให้ระมัดระวังรถทางด้านขวาก่อนเสมอ ใบขับขี่ไทยสามารถใช้ได้ที่ออสเตรเลียจริงๆไม่จำเป็นต้องทำใบขับขี่สากล เมื่อทำผิดกฎจราจรจะถูกปรับซึ่งค่าปรับสูงมากโดยเฉพาะเรื่องเมาแล้วขับ และ ความเร็ว ขอให้ระวังกันให้มาก
ร้านคาเฟ่ คือร้านกาแฟ ไม่ใช่ร้านอาหารคาเฟ่เหมือนที่คนไทยเรียกกัน
Melbourne Cup คือการแข่งม้า ไม่ใช่การแข่งฟุตบอล นับเป็นการแข่งม้าที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก วันนี้ถือเป็นวันหยุด ผู้คนจะออกมาดื่มกินและฉลอง จัดในช่วงปลายเดือนตุลาคม
Footy คือการแข่งขันฟุตบอลของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นกีฬาประจำชาติ ส่วน Soccer คือฟุตบอลที่คนไทยนิยมดูกัน อย่าสับสนเมื่อเพื่อนออสซี่ของเราพูดถึง Footy เขาหมายถึงกีฬาประจำชาติตัวเอง
คนที่อาศัยในเมล์เบิร์นหรือรัฐวิคตอเรีย จะเรียกตัวเองว่า Victorian
CBD หมายถึงศูนย์ธุรกิจที่อยู่ใจกลางเมืองเมล์เบิร์น
Suburb หมายถึงเขตหรืออำเภอ ในรัฐวิคตอเรียมี 321 เขต/อำเภอ
Melbourne คือเมืองหลวงของรัฐวิคตอเรีย หากเดินทางไปที่รัฐอื่นมีคนถามว่ามาจากไหนควรตอบว่าจาก Victoria, Melbourne เพราะนอกจากเมล์เบิร์นแล้วในรัฐวิคตอเรียยังมีเมืองขนาดใหญ่ๆอีกคือ
Geelong.
Ballarat.
Bendigo.
Mildura.
Shepparton.
Wodonga.
Warrnambool.
--
น้องๆที่เลือกมาเมล์เบิร์นรับรองว่าจะชอบที่นี่ สำหรับค่าเรียนตอนนี้มีโปรโมชั่นจากหลายสถาบัน
สามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ได้
--
การเดินทางสร้างประสบการณ์และความทรงจำ
เลือกจ่ายให้กับความทรงจำและประสบการณ์คือการใช้จ่ายที่ฉลาด
สิพิม พิวัธธงไชย
Senior Education Consult
ออสเตรเลียเราเชี่ยวชาญ
อยากเรียนนอกให้บอกเรา
Comments