👉“ถ้ากุญแจสำคัญในการสร้างความมั่งคั่งคือเกรดที่ยอดเยี่ยมในโรงเรียน บัณฑิตที่จบเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยคงจะรวยกันทุกคน”
👉คนรวยคิดแบบไหน เลือกเรียนอะไรที่ทำให้ชีวิตไม่ตกอับ
--
การเรียนที่มุ่งหวังให้ผู้คนเก่งในตำราแต่ว่าไม่สามารถนำไปใช้งานได้จริงนั้นมีอยู่ สิ่งนี้จึงเกิดคำที่ว่า
"ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด"
เมื่อตอนเรียนหนังสือ
ชนชั้นระหว่างนักเรียนเองแบ่งแยกด้วยเกรดหรือผลการเรียน
คนเก่งจะจับกลุ่มคนเก่ง ส่วนคนเรียนอ่อนก็มีกลุ่มของพวกเขา
นี่คือที่มาของคำว่า "เด็กหลังห้อง"
แต่ก็มีเด็กหลังห้องหลายคนที่เรียนเก่ง
คนแบบนี้ไม่เข้าสังคม ชอบอยู่สันโดษ
บินเดี่ยว แบบไม่สนใจใคร
--
เลือกเรียนอะไรไม่ทำให้ตกอับ
เป็นหัวข้อที่ยากในการตัดสินใจและการหาข้อมูล
เพราะ Trend ตลาดงานนั้นเปลี่ยนไปทุกสิบปี
ในช่วงเวลานี้การเลือกเรียนสายงานที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์
จะเป็นช่วงที่รุ่งเรืองที่สุด
สายการเรียนธุรกิจเองต้องเลือกให้ดี ..การเงินการธนาคารอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่น่าสนใจมากนัก แต่การเงินแบบสมัยใหม่ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีนี่คือตัวแปรที่สำคัญ เนื่องจากการเข้ามาของ Blockchain & Crypto
เรียนเกษตรฯ ไหวมั้ย
ตอบเลยว่าไหวและไปได้ไกลด้วย เพราะโลกของเราต้องการนักเกษตรเพื่อมาพัฒนาและดูแลพืชทางธุรกิจหรือแม้กระทั่งการเลี้ยงปศุสัตว์เพื่อธุรกิจก็ต้องเพิ่งคนเรียนเกษตร
วิศวกรและแพทย์หรือสายสาธารณสุข ยังเป็นที่ต้องการของตลาดงานตลอดเวลา ไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ ยิ่งเหตุการณ์โควิดยิ่งทำให้เห็นการขาดแคลนบุคคลากรทางนี้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะที่ออสเตรเลียเองต้องการกำลังงานด้านนี้สูงมาก
ที่ว่ามาข้างต้น...เหมาะกับคนชอบเรียน เรียนหนัก
ส่วนคนที่ไม่ค่อยสันทัดกับการเข้าห้องเรียน..อยากมีชีวิตดีควรเรียนอะไร
เรียนอะไรที่เป็นงานทักษะวิชาชึพ
เรียนจบแล้วลงมือทำได้เลย ..ไม่ต้องเป็นลูกจ้างใครก็ได้
ช่างซ่อมรถ ช่างไฟฟ้า
ทำอาหาร อย่างนี้ก็คืองานทักษะ
--
คนเรียนทักษะหรือคนเรียนวิชาการ รวยกว่ากัน
กลับไปอ่านด้านบรรทัดแรกด้านบนให้เข้าใจ
กุญแจสำคัญในการสำเร็จในชีวิตไม่ใช่เรื่องของผลการเรียน
แต่เป็นเรื่องของควาามพากเพียรของคนๆน้ัน
ถ้าตอนนี้คุณอายุ 40+ คงต้องมีเพื่อนสักคนที่พอจะเป็นตัวอย่างได้
เพื่อนที่เรียนเก่งในสมัยก่อนบางคนชีวิตไม่ก้าวหน้าเท่าไหร่
แต่เพื่อนเกเร เรียนแทบไม่ไหว สำเร็จและก้าวไปไกลอย่างไม่น่าเชื่อ
คนเรียนเก่งใช้ความพากเพียรของเขาในการเรียน
แต่อาจไม่ได้ใช้ความเพียรนั้นในการใช้ชีวิต
นี่คือคำตอบ
ชีวิตต้องการความพากเพียรมากกว่าการเรียนในห้อง
ชีวิตต้องการความอดทนและความกล้าหาญ
ชีวิตต้องการๆลองผิด ลองถูก
ชีวิตต้องการความเปลี่ยนแปลงเมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลง
การเรียนในทฤษฎีไม่ได้สอนสิ่งนี้ให้กับคุณ
ชีวิตในแต่ละวันต่างหากที่สอน
--
อย่ามัวแต่หลงไหลในผลการเรียนของตัวเองจนลืมเรียนรู้ชีวิต
หรืออย่าคิดว่าตัวเองเรียนแย่แล้วชีวิตจะไม่สำเร็จ ...ย้ำโดยการอ่านบรรทัดล่างนี้
“ถ้ากุญแจสำคัญในการสร้างความมั่งคั่งคือเกรดที่ยอดเยี่ยมในโรงเรียน บัณฑิตที่จบเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยคงจะรวยกันทุกคน”
--
คนชนะในเกมส์ชีวิตคิดแบบนี้ แบบที่คนรวยคิดกัน
.
ชอบทำงานเป็นทีมเพราะเชื่อว่าคนเราทุกคนมีความสามารถที่แตกต่างกัน การผสมผสานให้ลงตัวจะทำให้เกิดผลรับมหาศาล ดังนั้นคนที่รวยและสำเร็จเขาถึงมองหาคนเก่งๆมาร่วมงาน
.
เชื่อว่าความรวยไม่ใช่สิ่งพิเศษ ทุกคนสามารถร่ำรวยได้ด้วยทักษะหรือประสบการณ์ที่มี
.
เงินไม่ใช่เป้าหมาย การได้ทำสิ่งที่เขาต้องการและทำสิ่งนั้นให้ออกมาดีที่สุดต่างหากคือเป้าหมายของเขา และสิ่งที่ดีที่สุดนั่นแล่ะที่ทำให้เขาสำเร็จ และความร่ำรวยคือผลของสิ่งนั้น
.
มองข้ามปัญหาบางอย่าง ละทิ้งบางสิ่ง เพื่อไปสู่ผลสัมฤทธิ์ที่เหนือกว่า สายตาคนรวยมองเห็นมากกว่ามิติของคนธรรมดา
.
ไม่กล้วความเสี่ยง เพราะเขาเรียนรู้เรื่องการจัดการความเสี่ยงมาแล้ว และเข้าใจว่าความเสี่ยงคือโอกาสและสอนให้เขารู้และแก้ไขเมื่อผิดพลาด เขาจึงมองเห็นโอกาสมากกว่าคนทั่วไป
.
ประตูสู่ความสำเร็จนั้น
เปิดด้วยกุญแจแห่งความเพียรและความเข้าใจ
--
สิพิม พิวัธธงไชย
Senior Education Consult
ออสเตรเลียเราเชี่ยวชาญ
อยากเรียนนอกให้บอกเรา
Comments