วีซ่าไม่ผ่านเพราะสัมภาษณ์..ตอบอย่างไร

วีซ่าไม่ผ่านเพราะสัมภาษณ์...สมัครใหม่ได้ต้องทำอย่างไร เตรียมพร้อมเพื่อออสเตรเลีย - คำตอบที่ควรตอบเมื่อถูกสัมภาษณ์ -- ดีใจกับคนที่วีซ่าผ่าน ..และก็ขอให้คนที่ไม่ผ่านได้อ่านเรื่องนี้ ในการทำงานเป็นเอเจนท์ก็จะได้รับเมสเสสจากน้องๆมากมายต่อวันคิดว่ามากกว่า 50 คนขึ้นไป ทั้งเป็นลูกค้าใหม่และลูกค้าที่อื่นที่ยื่นวีซ่าแล้วถูกปฎิเสธ เจ้าหน้าที่แนะแนวที่ได้รับงานไปจะต้องส่งเอกสารมาให้พี่อ่านแล้วเราจะตัดสินใจว่าไปต่อกับเคสที่ถูกปฎิเสธมาหรือไม่ เพราะว่าการทำงานจะยากกว่าเดิมและที่สำคัญ พี่ต้องหาโรงเรียนใหม่ที่พร้อมรับเด็กนักเรียนที่มีประวัติการถูกปฎิเสธวีซ่า ...ไม่ง่ายนะคะ น้องเอ ...ยื่นวีซ่าไป ตค. และถูกปฎิเสธมา น้องเสียใจแต่ไม่ถอดใจขอไปต่อจึงมาขอคำปรึกษาจาก แพลนฯ พี่อ่านจดหมายปฎิเสธวีซ่าแล้วพบว่าเรื่องที่ถูกปฎิเสธนั้นล้วนแล้วเกิดจากการสัมภาษณ์ทั้งสิ้น เรื่องนี้แก้ไขไม่ยากค่ะ ไปต่อได้ คำถามอะไรบ้างที่อิมฯจะถามเด็กนักเรียนที่จะไปเรียนต่อออสเตรเลีย -เรียนที่ไหน ระยะเวลาเท่าไหร่ รู้จักโรงเรียนนี้ได้อย่างไร น้องๆเชื่อหรือไม่ว่านักเรียนบางคนไม่รู้เรื่องที่ตัวเองทำ เพราะให้เอเจนท์เป็นคนเลือกจะจัดการทั้งหมด และน่าเสียดายที่เอเจนท์ไม่เตรียมความพร้อมหรือแจงรายละเอียดให้นักเรียนรู้ -เหตุผลอะไรที่เลือกมาเรียนที่ออสเตรเลีย อันนี้ต้องมีเหตุผลที่น่าฟังมากกว่าคำว่า เพราะออสเตรเลียเรียนด้วยทำงานได้ พี่แนะนำให้น้องๆตอบว่า เพราะออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีคุณภาพทางการศึกษาในระดับต้นๆของโลก ถ้ารู้มากก็เติมเข้าไปว่าเทียบเท่ากับอังกฤษ อเมริกา แต่ว่าข้อดีของออสเตรเลียคือค่าครองชีพไม่สูงมากเมื่อเทียบกับที่อื่น การเดินทางก็สะดวกค่าใช้จ่ายในการเดินทางหากต้องการกลับมาเยี่ยมบ้านบ้างก็ไม่มาก อีกทั้งคนออสเตรเลียก็เฟรนลี่ใจดี เปิดรับคนที่ต่างวัฒนธรรม อันนี้ศึกษามาแล้วเลยคิดว่าออสเตรเลียเป็นประเทศที่เป็นตัวเลือกในใจ ที่อยากไปแสวงหาประสบการณ์และเพิ่มเติมศักยภาพของตัวเอง เพื่ออนาคตในการทำงาน ...ตอบแบบนี้ดูดี มง ลง -ค่าใช้จ่ายในการเรียน...อันนี้ก็ถูกถามได้ เพราะอิมฯเองก็อยากแน่ใจว่านักเรียนรู้หรือไม่ว่าจบหลักสูตรนี้ต้องจ่ายค่าเรียนเท่าไหร่ เรียนจบไปแล้วแผนในการใช้ชีวิตเป็นอย่างไร (ที่จริงเรื่องนี้เราจะเขียนใน GTE แนบไปแล้ว แต่ว่าเน้นย้ำให้นักเรียนตอบให้ตรงที่เขียนไปใน GTE) -คำถามส่วนตัวเรื่องการทำงาน กรณีนี้จะมักถูกถามเพราะว่าเลือกสายการเรียนไม่ตรงกับงานที่กำลังทำ ดังนั้นเอเจนท์ที่ทำงานก็ควรละเอียดในการให้คำปรึกษาเด็กไม่เน้นขายของที่อยากขาย ควรเลือกคอร์สที่มีความเกี่ยวเนื่องและให้ประโยชน์ต่อเด็กจริงๆ ส่วนคนทีมาเรียนภาษาอย่างเดียวก็ต้องมีน้ำหนักอย่างเพียงพอที่จะเรียนภาษาไปเพื่อสิ่งใด เป้าหมายแบบไหน -- เมื่อน้องได้รับหนังสือปฎิเสธและจะยื่นใหม่ บางเอเจนท์จะทำต่อให้แต่บางเอเจนท์ก็ไม่ทำต่อ บางคนก็อยากเปลี่ยนเอเจนท์พี่แนะนำว่าอยู่ที่น้องค่ะ บางเอเจนท์ทำต่อไม่ได้เพราะโรงเรียนที่เป็นตัวแทนอยู่ไม่รับเคสที่วีซ่าถูกปฎิเสธไม่ว่ากรณีใดๆ การจะไปขอสมัครเป็นตัวแทนโรงเรียนใหม่ก็จะยากไม่คุ้มกับเวลา ดังน้้นนี่คือเหตุผลว่าทำไมเอเจนท์เดิมจึงไม่ทำต่อให้ สำหรับที่แพลนฯ เราอ่านจดหมายปฎิเสธโดยละเอียดและเราคิดว่าทุกการปฎิเสธนั้นมีเหตุผลของมัน สิ่งที่เราต้องตีประเด็นให้ออกคือต้องแก้ตรงจุดไหน และให้ตรงจุด ถ้าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเงินหรือสุขภาพ เราคิดว่าไปต่อได้ แพลนฯเป็นตัวแทนให้กับหลายสถาบันดังนั้นเราจึงสามารถส่งใบสมัครใหม่ที่คิดว่าเราจะแก้ไขปัญหาได้ เพื่อทำการสมัครใหม่และยื่นวีซ่าให้อีกครั้ง ในการสมัครเรียนใหม่สำหรับนักเรียนที่ถูกปฎิเสธมาจะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากมากกว่าเดิม เช่นโรงเรียนอาจขอสัมภาษณ์หรือตรวจเอกสารทุกอย่างโดยละเอียด ภาระงานเราจะมากขึ้นแต่ว่าเราพร้อมจะช่วยถ้าน้องอยากให้เราดูแล เพราะโอกาสนั้นเป็นเรื่องของการทุ่มเท การไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค คุณจะได้สิ่งที่ต้องการ ไม่มีอะไรง่ายและสมหวังตลอดเวลา คนที่เรียนรู้คำว่าเสียใจและเข้าใจ เริ่มต้นใหม่และไม่ล้มเลิก จะสำเร็จได้ยั่งยืน -- สิพิม พิวัธธงไชย Senior Education Consult www.planstudyagency.com ออสเตรเลียเราเชี่ยวชาญ อยากเรียนนอกให้บอกเรา