ลงเรียนภาษา 6 เดือน...แล้วต่อวีซ่าเรื่อยๆ
ออสเตรเลีย..คุ้มไม่คุ้ม
-
ช่วงนี้เห็นมีวีซ่าที่เรียน 6 เดือนออกเยอะ
หลายคนได้วีซ่ากัน
แต่ช่วงก่อนหน้านั้นไม่ค่อยมีใครได้วีซ่าระยะเวลาเรียนแบบนี้
แม้แต่ลงเรียน Diploma ก็โดนปฎิเสธ
ทั้งที่คุณสมบัตินักเรียน และการเงินดี
-
เหตุผลส่วนใหญ่ทีให้มาคือเรื่องเดิมๆ
"ไม่น่าจะกลับมาไทย หรือ ไม่ได้ตั้งใจมาเรียน"
อันที่จริง อิมฯ ก็รู้ว่านักเรียนส่วนใหญ่ที่มาออสเตรเลีย
ก็มาเพราะสิทธิพิเศษในการทำงาน
การจะได้อยู่ต่อหรือไม่นั้น
เป็นเรื่องของพฤติกรรมข้างหน้า
ถ้านักเรียนไม่เคยขาดเรียนเลย
ไม่เคยประพฤติผิดกฎหมาย
อันนี้เขาก็มีสิทธิอยู่ต่อตามที่สมควร
แต่การที่ออกมาบอกว่า "ไม่น่าจะกลับมาไทย"
ดิฉันคิดว่านี่เป็นความเห็นส่วนตัว
อาจมีหลักอ้างอิงในการทำ Underwrite (การพิจรารณา)
แต่สุดท้ายเมื่อต้อง Finalize ก็ต้องใช้ความคิดตัวเอง
-
เมื่อตอนดิฉันอายุ 26
มีโอกาสได้เข้าทำงานกับบริษัทประกันยักษ์ใหญ่ของโลก
ตำแหน่งตอนนั้นคือ Non-Medical Underwriter
ถ้าคนทำงานประกันชีวิตจะเข้าใจว่าตำแหน่งนี้ทำงานเกี่ยวกับอะไร
ดิฉันอยู่ในทีมพิจารณาเคสประกันชีวิต
ใครสมควรรับทำประกัน หรือ ใครไม่น่ารับ
ก่อนจะขึ้นมาเป็น Underwriter ได้
คุณต้องผ่านการเรียน และสอบ มาก่อน
เรื่องหลักเกณฑ์ และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ตอนนั้นดิฉันยังไม่ได้จบปริญญาตรีใบที่สองคือนิติศาสตร์
แต่ใช้ปริญญาตรีด้านภาษาอังกฤษเข้าสมัครงาน
-
เมื่อเทียบเคียงกับเรื่องของการอนุมัติวีซ่า
คิดว่ามีความใกล้เคียงกัน
.
จะยื่นวีซ่าองค์ประกอบต้องมีอะไรบ้าง
คอร์สการเรียน ประวัติการศึกษา
อายุ ประวัติการทำงาน การเงิน ครอบครัว
วัตถุประสงค์ในการไปเรียน
ทุกอย่างจะมีเกณฑ์ของมันเสมอ
.
จะทำประกันชีวิต
อายุ ประวัติการเจ็บป่วย การงาน ครอบครัวสมรสหรือโสด
ผู้รับผลประโยชน์ วงเงินการขอทำประกัน
การศึกษา งานอดิเรก
ทุกอย่างคือองค์ประกอบที่สำคัญในการรับประกันชีวิต
บางเคสมีการสอบประวัติส่งผู้ตรวจไปดูพฤติกรรมที่บ้านแล้วส่งรายงาน
เพื่อประกอบการพิจารณา กรณีวงเงินสูงมากๆ หลักหลายล้านบาท
.
ไม่ใช่ทุกคนจะได้รับวีซ่า
และก็ไม่ใช่ทุกคนจะได้รับการประกันชีวิตค่ะ
คำว่า Borderline คือกลุ่มคนที่อยู่ใต้เส้น...ก็โดนปฎิเสธ
-
หลักการณ์ของการให้วีซ่าคือให้โอกาส ...ส่วนชีวิตที่เหลือของคุณจะดี
หรือไม่อยู่ที่การจัดการตัวเอง
.
หลักการณ์ของการให้การคุ้มครองชีวิตคือให้ความมั่นใจว่าคุณจะมีคนดูแล
และเมื่อจากไปคนอยู่ข้างหลังจะไม่ลำบาก
-
คุณว่าสองอย่างนี้สิ่งไหนยิ่งใหญ่กว่ากัน
-
ดิฉันจึงมีมุมมองที่เห็นภาพชัด..ของนักเรียน
ขอโทษนะคะ พี่ไม่ได้รู้จักนักเรียนทุกคนที่เข้ามาใช้บริการของแพลนฯ
เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่รับเคส ก็ดำเนินการไปตามกระบวนการ
จะรู้จักเป็นบางคนเท่านั้น
นักเรียนของแพลนมีจำนวนมาก..ต้องขออภัย
-
เมื่อมีเคสที่ยากและ sensitive พี่แนะแนวจะเข้ามาปรึกษา
ทั้งเรื่องการเลือกคอร์สการเรียน และการวางแผนวีซ่า
เราทำเรื่องยากๆหลายเรื่องและมันประสบความสำเร็จ
คนทำงานที่แพลนฯ ไม่เลือกงาน เพราะทุกงานมีคุณค่าของมัน
ถ้ามีความเป็นไปได้ และองค์ประกอบครบ
-
มาเรียน 6 เดือน แล้วต่อวีซ่า
คำว่าต่อวีซ่าไม่มีอยู่จริง
มีแต่คำว่า "สมัครใหม่"
เอกสารทุกอย่างใช้เหมือนเดิม
GTE ต้องเขียนใหม่
-
การสมัครวีซ่าอีกครั้ง....ไม่ได้หมายความว่าคุณจะได้รับการอนุมัติ
แม้ว่าคุณจะอยู่ในออสเตรเลียแล้วก็ตาม
ยิ่งคุณไม่เข้าเรียนสม่ำเสมอ
คอร์สการเรียนที่คุณเลือกต่อไม่สมเหตุสมผล
การเงินของคุณไม่เพียงพอ
วีซ่าก็ไม่อนุมัติ
คุณก็ต้องกลับบ้าน
หรือบางคนก็หาทางอยู่ต่อด้วยวิธีอื่น
มีทั้งแบบถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย
-
ทำไม...เอเจนท์คัดเด็ก
บางเคสเราปฎิเสธ และบางรายเรายกเลิกการทำงาน
เพราะเราเล็งเห็นว่า นักเรียนไม่ได้มีวัตถุประสงค์
เรื่องการเรียนเป็นหลักอย่างโจ่งแจ้ง
และมีแนวโน้มจะเข้ามาแล้วหายไป
เรื่องนี้เอเจนท์ต้องคำนึงให้มาก
"การรักษาเครดิตเอเจนท์เป็นเรื่องสำคัญ"
ไม่งั้นธุรกิจไปต่อไม่ได้ค่ะ
.
มาเรียน 6 เดือนค่าใช้จ่ายแสนกว่า
ต่อวีซ่า....ต้องลุ้น
มาอยู่ 6 เดือนคิดว่าจะมาถอนทุน
พี่เห็นว่าหมดตัวก็เยอะ ...ไม่ได้อะไรกลับไปก็มี
หนี้ที่ยืมมาก็ไม่ได้ใช้
คิดดีๆ และคิดให้ถ้วนถี่ คิดให้มาก
ทุกอย่างมีด้านที่มืดของมัน
.
เพราะจริงใจจึงเขียน เตือนเพื่อให้เข้าใจ
ถ้าพร้อม ถ้าไหว ก็ใส่เกียร์ลุย
-
เอเจนท์ไม่ใช่คนรับใช้..ไม่สามารถทำอะไรทุกอย่างให้คุณได้
มาแล้วต้องช่วยเหลือตัวเอง ...อยากเป็นคุณหนูให้อยู่บ้าน
-
สิพิม พิวัธธงไชย
Senior Education Consult
PLAN Study Agency
Comentários